รอยมือบนผนังถ้ำลัสโก้

January 29, 2021

จากรอยมือ 17,000 ปีบนผนังถ้ำลัสโก้สู่รอยมือของมนุษย์ปัจจุบัน

ตอนเด็กๆ ใครเคยเอามือวางทาบบนกระดาษแล้วลากเส้นรอบมือตัวเองบ้าง?

ณ ช่วงวินาทีที่ยกมือออกมาแล้วดูลายเส้นรอบมือตัวเองรู้สึกยังไง?

เราจะรู้สึกเหมือนกับบรรพบุรุษยุคหินเก่าของเราเมื่อ 17,000 ปีก่อนที่กางมือทาบบนผนังถ้ำลัสโก (Lascaux) แล้วพ่นสีรอบๆ มือจนรอยมือยังเหลือมาถึงปี 1940 ให้เด็กหนุ่มสี่คนและหมาหนึ่งตัวไปค้นพบหรือเปล่า?

ประเทศฝรั่งเศส ในเดือนกันยายน 1940 ท่ามกลางสงครามโลกครั้งที่สองที่ระอุอยู่ภายนอก “มาร์แซล ลาวิดา” (Marcel Lavidat) อายุ 17 ปีพาหมาชื่อ “โรบ็อต” ไปเดินเล่นในป่าใกล้หมู่บ้าน Montignac ที่เขาอาศัยอยู่ บ้างก็เล่าว่าหมาเขาไถลตกลงไปในถ้ำ บ้างก็บอกว่าเขาลงไปเอง แต่ไม่ว่าจะเป็นเช่นไรสุดท้ายเขาก็ลงไปสำรวจถ้ำเพราะตำนานมีว่าทางเชื่อมอาจพาไปสู่ที่ซ่อนสมบัติ เมื่อยกมือขึ้นส่องตะเกียงเขาพบลายเส้นที่เหมือนเป็นภาพสัตว์ ด้วยน้ำมันตะเกียงที่ใกล้หมด เขากลับไปตามเพื่อนอีกสามคน “ฌาค์ก มาร์ซาล” (Jacques Marsal (อายุ 15) “ยอร์ช อาแงล” (Georges Agnel (อายุ 16) และ “ซิมง โกนกา” (Simon Coencas (อายุ 15) กลับมายังถ้ำด้วยกันในวันต่อมา (บ้างก็ว่าสี่วันต่อมา) ทั้งสี่คนต้องตะลึงกับภาพสัตว์นานาชนิดที่ขนาดใหญ่เกินมนุษย์ ทั้งม้า กวางตัวผู้ วัวกระทิง แม้แต่สัตว์ที่สูญพันธ์ไปแล้วอย่างแรดดึกดำบรรพ์ก็ล้วนร่ายรำอยู่บนผนังถ้ำนั้น นอกจากสัตว์ก็ยังมีรอยมือวางทาบพ่นสีอีกด้วย

เสียดายที่ยอร์ชและซิมงมีเวลาได้ชื่นชมภาพบนผนังถ้ำนี้แค่สองวัน ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับยอร์ช แต่สายเลือดยิวของครอบครัวไซมอนทำให้เขาและครอบครัวต้องถูกส่งไปค่ายกันกันของนาซี

สองคนที่เหลืออยู่ มาร์แซล และ ฌาค์ก เริ่มเอะใจว่าภาพเหล่านี้อาจมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ พวกเขาพานักประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ลีออง ลาวัล (Leon Laval) ที่กลัวกล้าๆ จะเข้าถ้ำกับเด็กวัยรุ่นหนุ่มสองคนไปสำรวจถ้ำ แต่เมื่ออับเบเห็นภาพก็ต้องตะลึง เด็กหนุ่มสองไม่ได้โกหก ภาพบนผนังลัสโกเป็นของจริง นี่คือภาพวาดฝีมือมนุษย์เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลกที่ยังคงหลงเหลืออยู่ แม้ว่าผู้เกี่ยวข้องทุกคนที่ค้นพบตอนนั้นจะยังไม่รู้ข้อเท็จจริงนี้ แต่ด้วยความกลัวว่าจะมีใครมาทำลาย มาร์แซลและฌาค์กจึงตัดสินใจเริ่มตั้งแคมป์เพื่อเฝ้าหน้าถ้ำ

มาร์แซลและฌาค์กตั้งเตนท์ก่อกองไฟเฝ้าหน้าถ้ำอยู่หนึ่งปีเต็ม ตั้งแต่ฤดูหนาวปี 1940 – 1941

ฌาค์กไม่อาจลืมความประทับใจของภาพผนังในถ้ำได้ เขากลายเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลถ้ำลัสโก ให้ความรู้แก่ผู้มาเยือน ช่วยรักษาโบราณสถานแห่งนี้ ปฏิบัติหน้าที่จนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตในปี 1989

ก่อนฌาค์กตายสามปี มาร์แซล ยอร์ช ฌาค์ก และซิมงได้กลับมาถ่ายรูปร่วมกันหน้าทางเข้าถ้ำลัสโกอีกครั้ง

สุดท้ายถ้ำลัสโก้เปิดให้บุคคลทั่วไปได้เยี่ยมชมในวันที่ 14 กรกฎาคม 1948 แต่เพียง 15 ปีก็ปิดตัวลง เพราะอากาศที่มนุษย์หายใจออกเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ส่งผลเสียต่อภาพบนผนัง รวมทั้งแสงไฟที่สาดก็ทำให้ภาพเสื่อม

สุดท้ายทางการฝรั่งเศสตัดสินใจสร้างถ้ำลัสโกจำลองแห่งที่สองขึ้นมา ซึ่งอยู่ห่างจากแห่งแรกไปเพียง 200 เมตร เพื่อให้คนได้ไปเยี่ยมชม ก่อนที่จะสร้างแห่งที่สาม สี่ และห้าตามมา ส่วนถ้ำลัสโกของจริงปิดตายเพื่อรักษาภาพบนผนังให้นานที่สุด

จนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีใครพิสูจน์ได้แท้จริงว่ามนุษย์ยุค 17,000 ปีที่แล้ววาดผนังถ้ำเพื่ออะไร ศิลปะ? การบูชายัญ? พิธีกรรมทางศาสนา? แล้วมนุษย์เอามือทาบลงไปทำไม? นี่คืองานศิลปะหรือเปล่า หรือ คือการยืนยันตัวตนว่าครั้งหนึ่งเราเคยมีชีวิตอยู่ที่นี่ตอนนี้?

จอห์น กรีน (John Green) นักเขียนนิยายชื่อดังที่ทำพอดส์แคสต์เรื่องนี้จนช่องยูทูบสรุปความรู้ Kurzgesagt – In a Nutshell เอาไปทำเป็นวิดีโอจนเป็นที่มาของการเขียนครั้งนี้ จำสีหน้าของลูกชายตัวเองที่มองภาพวาดรอยมือของตัวเองด้วยความพิศวงเมื่อตอน 2-3 ขวบได้

ผ่านมา 17,000 กว่าปี เราก็ยังคงทาบมือตัวเองลงบนที่ไหนสักแห่ง แล้วหาอุปกรณ์เท่าที่จะหาได้มาวาดฝ่ามือตัวเอง

ชีวิตมนุษย์ยุคหินเก่าเมื่อ 17,000 ปีที่แล้วในประเทศปัจจุบันที่เราเรียกฝรั่งเศสไม่ง่ายนัก ทั้งต้องใช้เวลาหาของป่าล่าสัตว์ ทั้งหนาวเหน็บ หนาวขนาดที่หิมะกัดจนหลายครั้งภาพพิมพ์มือบนผนังแทนที่จะมีครบห้านิ้วกลับมีแค่สามนิ้วแทน แต่มนุษย์เหล่านั้นก็ยังทาบมือลงผนังแล้วพ่นสีรอบมือ  

นี่อาจจะเป็นการตีความของจอห์น กรีนเองและของตัวเราเองที่เชื่อตามจอห์น กรีน แต่ถ้าหากพอจะกล่าวได้ว่าภาพบนผนังเป็นศิลปะรูปแบบหนึ่ง มนุษย์เมื่อ 17,000 ปีที่แล้วทำราวกับว่าพวกเขาไม่อาจหยุดสร้างสรรค์ได้ ต่อให้ชีวิตจะดำเนินไปเช่นไร การสร้างสรรค์ก็ยังจำเป็นต่อการมีชีวิตอยู่  

จอห์น กรีนบอกว่าการสร้างถ้ำลัสโกอีกแห่งขึ้นมาเพื่อปกปักษ์ถ้ำแห่งแรกดูจะเป็นพฤติกรรมมนุษย์ที่แอนโทรโปซีน (แนวคิดว่ายุคที่เราอยู่เป็นยุคที่การกระทำจากฝีมือมนุษย์พลิกโฉมสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศโดยสิ้นเชิง) เอามากๆ แต่มันทำให้เขามีความหวังที่คนจำนวนมากยอมที่จะรักษาถ้ำแห่งแรกไว้ แล้วยอมไปดูของที่ทำขึ้นมาเพื่อเลียนแบบแทน

เหมือนกับเด็กๆ กลุ่มนั้นในปี 1940 ที่ยอมเฝ้าหน้าถ้ำอยู่หนึ่งปีเพื่อรักษาอะไรบางอย่างที่เขารู้สึกว่าน่าจะมีคุณค่าต่อมนุษยชาติแม้จะไม่รู้ว่ามีแค่ไหน

เราเป็นส่วนหนึ่งของสายธารประวัติศาสตร์ที่ย้อนกลับไปได้เป็นสิบ-พัน-หมื่น-แสน-ล้านปี แด่เด็กทุกคนที่เคยวาดมือตัวเอง

อ้างอิง

Kurzgesagt – In a Nutshell. 2020. “The Past We Can Never Return To – The Anthropocene Reviewed” https://www.youtube.com/watch?v=YbgnlkJPga4&t=60s

The Four Discoverers. https://archeologie.culture.fr/lascaux/en/four-discoverers

Richard Cavendish. 2015. “Discovery of the Lascaux Cave Paintings” https://www.historytoday.com/archive/months-past/discovery-lascaux-cave-paintings

Lascaux. https://en.wikipedia.org/wiki/Lascaux

John Sewell. 2020. How Did A Dog Discover The Lascaux Cave Paintings? https://www.thecollector.com/how-did-a-dog-discover-the-lascaux-cave-paintings/

Oral history interview with Simon Coencas. 2014. https://collections.ushmm.org/search/catalog/irn86143

แอนโทรโปซีน. https://th.wikipedia.org/wiki/แอนโทรโปซีน

Leave a Reply:

Your email address will not be published. Required fields are marked *